หมวดเนื้อหา:
เมื่อฟ้าเดินออกมาถึงบริเวณหน้าบ้านของเป้าหมายที่เธอเพิ่งสังหารไป เธอก็วางอาวุธลงกับพื้นด้วยความประมาท พร้อมทั้งหยิบเครื่องมือบางอย่างขึ้นมา ฟ้ามองไปยังเครื่องมือที่คล้ายกับโทรศัพท์แต่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น เธอเปิดพิมพ์ข้อความลงไปในนั้นอย่างรวจเร็ว
‘งานเสร็จเรียบร้อย เท่านี้ประวัติศาสตร์ก็ได้เปลี่ยนแปลงแล้ว’ เมื่อเธอรายงานเสร็จเธอก็กดส่งไปในทันที โดยที่เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ได้มีชายคนหนึ่งได้มาอยู่ข้างหลังของเธอแล้ว ชายคนนั้นได้ท่องคาถาบางอย่าง ทำให้เกิดแสงสว่างได้พาทั้งร่างและวิญญาณของวินหายไป
พอฟ้าได้พบว่าวินนั้นถูกแสงปริศนาพาตัวไปทำให้เธอพูดกับตัวเองด้วยความเจ็บใจ “ใครกัน ใครที่เป็นคนเอาวิญญาณของมันไป”
“ข้าเอง” เสียงอันแสนเย็นยะเยือกดังขึ้นจากข้างหลังของหญิงสาวทำให้เธอต้องหันไปมองอย่างรวจเร็ว พอฟ้าได้เห็นชายตรงหน้าเธอก็มีเหงื่อออกเต็มใบหน้า ชายตรงหน้าของเธอใส่ชุดสีดำใบหน้าปิดบังด้วยหน้ากากสีขาว เมื่อชายตรงหน้าได้เห็นเธอเขาก็มองประเมินฟ้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะส่งคนอย่างเจ้ามาฆ่าลูกของข้า” ชายตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงต่ำแฝงความเยาะหยันไว้ในน้ำเสียง
“นี่คุณหมายความว่าไงคะ” เธอพยายามมองชายตรงหน้า ในขณะเดียวกันมือของเธอก็พยายามกดปุ่มเพื่อให้เพื่อนของเธอได้รู้จะได้มาช่วยเธอ
“ข้าจะบอกให้รู้ก็ได้ ว่าข้าเป็นใคร” ชายตรงหน้าพูดพร้อมทั้งโน้มตัวเขามากระสิบข้างหูฟ้า
พอหญิงสาวได้ยินเธอก็มีสีหน้าสี้ดเผือดในทันที “นี่ นี่ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่” ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความหวาดกลัว สำหรับเธอไม่ใช่ว่าเธอจะเอาชนะชายตรงหน้าไม่ได้ถ้าเธอเตรียมตัวมาดีกว่านี้ แต่ตอนนี้ยังไงเธอก็สู้เขาไม่ได้แน่นอน
“ไม่ต้องถามอะไรมากหรอก ยังไงข้าก็จะยังไม่ข้าเจ้า แต่ข้าจะต้องส่งเจ้าไปอยู่ที่มิติอื่นสักพักก่อน” พอชายตรงหน้าพูดจบ เขาก็ค่อย ๆ ย่างเท้าเข้ามาหาฟ้าด้วยความใจเย็น
เมื่อฟ้าได้เห็นอย่างนั้นเธอก็พยายามถอยห่าง แต่ทว่าร่างกายของเธอนั้นกลับไม่ทำตามคำสั่ง
“รีบมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เลยนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
ชายสวมหน้ากากค่อย ๆ เอื้อมมือมาตรงหน้าฟ้า พอมือของเขาได้สัมผัสตัวเธอจู่ ๆ ก็ได้มีมิติสีดำถมึนได้ดูดเอาตัวของเธอหายไปจากตรงนั้นทันที
‘ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานพวกแกก็ต้องไปอยู่ที่นั่นทั้งหมดนั่นแหละ จนกว่าลูกของข้าจะพร้อมสู้กับพวกแก’
หลังจากคิดเสร็จ ชายสวมหน้ากากก็ใช้เวทเคลื่อนย้ายอย่างรวจเร็ว หลังจากเขาไปประมาณห้านาทีบ้านของวินก็ถูกเพิงเผาผลาญจนหมด
ณ ห้องประชุมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ห้องแห่งนี้เต็มไปด้วยชายหญิงหลายร้อยคน พวกเขาทั้งหมดกำลังนั่งรอข้อความที่กำลังถูกส่งมาจากหญิงสาวที่ไปสังหารตัวปัญหาของพวกเขา ทันใดนั้นเองหน้าจอคอมก็ได้มีข้อความส่งมา พอแต่ละคนได้เห็นข้อความทางหน้าจอทำให้แต่ละคนหันไปมองหน้าเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันทันที
“ในที่สุด ในที่สุดพวกเราก็ฆ่าชายคนนั้นได้แล้ว” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เริ่มแผนการต่อไปได้เลย” ชายที่นั่งหัวโต๋ะเอ่ยต่อในทันที พอพวกเขาได้ยินพวกเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกจากห้องประชุมในทันที
ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังออกจากห้องประชุม กลับมีชายคนหนึ่งได้พูดรำพึงกับตนเองเบา ๆ
“ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้” เขาพูดพร้อมทั้งเดินไปทำงานของเขา
หลังจากที่ชายสวมหน้ากากได้ส่งฟ้าไปยังมิติอื่นเขาก็พาร่างของวินมายังที่แห่งหนึ่ง พอเขาได้มาถึงเขาก็ได้นำมือมาวางไว้ที่ร่างของวิน ทันใดนั้นเองก็ได้มีแสงสีเหลืองปรากฏขึ้นล้อมรอบร่างของชายหนุ่ม พอแสงนั้นได้หายไปร่างกายของวินก็มีการเปลี่ยนแปลง
จากเส้นผมที่เป็นสีดำตอนนี้กลับกลายเป็นสีทอง จากดวงตาที่เคยเป็นสีดำกลับกลายเป็นสีฟ้า รวมทั้งหน้าตาที่เคยดูเป็นผู้ใหญ่ตอนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นเด็กหนุ่มที่มีอายุธประมาณ สิบสามถึงสิบสี่ปี
เมื่อชายหน้ากากได้เห็นดังนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง “สำเร็จ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
สิ้นเสียงเขาก็ได้วาดมือไปรอบ ๆ ตัวของวินอีกครั้งพอวาดมือเสร็จก็ได้มีบาเรียขึ้นมาล้อมรอบตัวของวิน จากนั้นเขาก็ได้ใช้เวทมิติเพื่อส่งวินไปยังที่แห่งนึ่ง
“จงไป ไปยังจุดจบและจุดเริ่มต้นของพวกเรา” หลังจากนั้นร่างของเด็กชายก็ค่อย ๆ ลอยออกไปอย่างช้า ๆ โดยที่มีดวงตาของชายสวมหน้ากากมองส่งวินจนเขาไม่สามารถมองเห็นเด็กหนุ่มเขาจึงได้พูดขึ้นอีกครั้ง
“ต่อไปก็จัดการพวกมันสินะ” สิ้นเสียงเขาก็ใช้เวทมิติหายตัวไปจากตรงนั้นทันที
ณ บ้านหลังหนึ่งได้มีชายสองคนกำลังนั่งดูทีวีในยามช้าวพร้อมทั้งจิบกาแฟไปด้วย แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นรายงานข่าว ทำให้พวกเขาต้องมองทีวีอย่างตั้งใจ เมื่อรายงานข่าวนั้นจบพวกเขาก็พูดขึ้นพร้อมกัน
“ไม่คิดเลยว่าแกจะตายอย่างนี้” ชายคนแรกพูดกับชายคนที่สอง
“ห้าๆๆๆ มันตายก็ดีแล้วเท่านี้พี่ของแกก็ไม่ได้ตายปล่าวแล้ว” ชายอีกคนหัวเราะอย่างสะใจและลุกขึ้นไปจากเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ทันที
ยามค่ำคืนวินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มกระพริบตาถี่ ๆ พร้อมกับมองไปยังรอบ ๆ ทำให้เขาได้พบว่าตอนนี้เขาได้อยู่ที่ไหนสักที่ ซึ่งเป็นที่ที่เขาไม่ได้รู้จักแม้แต่นิตเดียว
‘นี่มันที่ไหนกันเนี่ย’ เขาคิด พร้อมพยายามจะขยับตัวแต่เขาก็ไม่สามารถขยับได้ สายลมอ่อน ๆ ที่พัดมาโดนตัวของวินทำให้เขาคิดว่าสิ่งที่เขาได้เห็นนั้นมันเป็นแค่ความฝัน ทำให้เขาหลับตาลง ผ่านไปไม่นานเขาก็หลับลงอีกครั้ง
ณ บ้านหลังหนึ่ง มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ในมือของเธอถือหนังสือเล่มหนึ่งที่มีหน้าปกเขียนว่าผู้เดินทาง ระหว่างที่เธอกำลังมองหนังสือก็ได้มีเสียงของน้องเธอพูดขึ้นนน
“พี่ลิน ไปอาบน้ำได้แล้ว” สิ้นเสียงเรียกเด็กสาวก็ปิดหนังสือพร้อมทั้งลุกไปในทันที
- เข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น