หมวดเนื้อหา:
เวลาพานไปเท่าใดมิอาจทราบ เด็กหนุ่มผมทองใช้ความเร็วดุดสายฟ้าเคลื่อนร่างผ่านต้นไม้ ในขณะที่ดวงตาของเขาก็กวาดมองรอบ ๆ ไปด้วย วินรู้ดีว่าหารเขาเคลื่อนไหวช้าไปกว่านี้คนที่จะต้องเสียเปรียบคงไม่พ้นตัวของเขา หากเขาคลาดการไม่ผิดอีกประมาณห้านาทีเขาก็คงถึงรังของพวกโจรเป็นแน่
‘อบทนก่อนนะ’
สิ้นความคิดเด็กหนุ่มผมทองก็สัมผัสถึงจิตสังหารที่โผล่ขึ้นกระทันทางด้านหลัง ไอ้ฆ่าฟังเย็นเยือกแผ่เข้าทางศีรษะทำให้วินต้องหยุดฝีเท้าและก้มหัวลงอย่างรวจเร็ว หางตาของวินเหลือบเห็นต้นไม้เบื้องหน้าหักโข้นลง ความรุนแรงของการโจมตีทำให้เขารู้สึกเย็นยะเยือกหากเขามิได้สังเกตสิ่งทึ่ต้องขาดคงเป็นศีรษะของเขาเป็นแน่
‘อะไรกันเนี่ยว! ถ้าเราหลบไม่ทันมีหวังตายแหง ๆ ’
วินหันขวับไปมองยังด้านหลัง ทว่าสิ่งที่เขาพบนั้นกับเป็นความว่างเปล่า ก่อนที่เขาจุได้ประมวลสถานการณ์ เด็กหนุ่มผมทองรู้สึกถึงอันตรายที่โผล่ขึ้นมาจากฝั่งขวามือ เขายกยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ
‘ได้ถ้าจะเอาแบบนี้ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นก็รีบทำให้มันจบดีกว่า’
สิ้นความคิด วินก็ผนึกพลังปราณไปที่มือขวา เขาง้างหมัดขึ้นหลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็ชกเข้าไปยังสิ่งที่พรุ่งตรงมาหาเข้า การโจมตีที่แสนรุนแรงทำให้ต้นไม้รอบ ๆ ต้องสั่นไหว วินกวาดตารอบ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขากับไม่พบกับสิ่งที่จู่โจมเขา หากเป็นไปได้วินก็อยากจะจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด
‘ถ้าเป็นแบบนี้แย่แน่ หรือว่าพวกมันรู้เลยส่งคนมาโจมตีเรา’
เขาตัดสินใจทยานตัวอีกครั้ง แต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนร่างออกจากจุดเดิม จู่ ๆ ผืนดินเบื้องร่างก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้ตัดสินใจ วินก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังโผล่ขึ้นมาล้อมรอบตัวของเขาทุกทิศทุกทาง เพียงไม่นานชายหนุ่มพบว่าตอนนี้ได้มีเถาวัลย์จำนวนมาก โผล่พ้นจากพื้นดินขึ้นมาล้อมรอบ บริเวณที่แด็กหนุ่มยืนอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เด็กหนุ่มหยุดมองอย่างตกตลึง เพียงไม่กี่วินาทีเถาวัลย์ก็บดบังทางเบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม
‘เวทพฤกษาอย่างงั้นหรอ ดูถ้าแล้วคงใช้เวทจากระยะไกลสินะ แย่จริง ๆ คนยิ่งรีบอยู่แบบนี้คงต้องใช้พลังเต็มที่สักหน่อยแล้ว’
สิ้นความคิด เด็กหนุ่มผมทองก็ผนึกพลังเพิ่งทั่วร่างทำให้เปลวไฟสีแดงฉานส่องสว่างไปทั่วอาณาบริเวณ พร้อมกับพวกเถาวัลย์ที่พุ่งตรงมาโจมตีเด็กหนุ่ม เขาสบัดมือทันทีเพื่อให้เปลวไฟกระเดินโดนเถาวัลนย์เบื่องหน้า หากแต่เด็กหนุ่มก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าการโจมตีของเขานั้นไม่เกิดผล
“อะไรกัน เวทพฤกษามันต้องแพ้ทางเวทไฟไม่ใช่หรือไงกัน”
เขาเอี้ยวตัวหลบการโจมตีตรงหน้าอย่างรวจเร็ว วินผนึกพลังปราณไว้ที่ขาทั้งสอง พรางผนึกพลังเวทไฟไว้ที่มือทั้งสองข้าง เพียงเสี้ยววิที่เถาวัลย์โจมตีเขารอบ ๆ ทิศวินก็ใช้พลังไฟทั้งหมดโจมตีไปยังเบื่องหน้า ความรุนแรงของเวทไฟทำให้เถาวัลย์นั้นถูกไฟเผาจนไม่เหลือกซาก
เด็กหนุ่มเตรียมตัวที่จะใช้พลังปราณทยานตัวออกจากพวกเถาวัลย์ ทว่าทันทีที่ทางเบื่องหน้าปรากฏสู่สายตา เขาก็ต้องเบิกตาด้วยความตกตลึง
จู่ ๆตรงหน้าของวินก็ได้มีวงเวทที่โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน พอวินได้มองดีดีเขาก็พบว่าตอนนี้กลุ่มของโจรที่เขาได้ปะทะด้วยได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า เพราะพวกโจรที่วินคิดว่าถูกช่วยไปแล้วนั้นกับมาปรากฏตัวให้วินเห็น
วินจับจ้องร่างของกลุ่มคนเบื่องหน้าอย่างพินิตพิเคราะห์ ร่างกายของพวกเขานั้นมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งแขนและขาที่เหมือนสัตว์ป่า และพลังเวทที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นกว่าครั้งก่อน บาดแผลที่เคยถูกเขากับจีน่าเล่นงานตอนนี้กับสนิด
พวกโจรขู่เขาเหมือนสัตว์ป่า จากที่เขาสังเกตดู ทำให้เขาพบว่าตอนนี้กลุ่มคนเบื้องหน้านั้นคงไม่มีสติเสียแล้ว
“นี่แกทำอะไรกับพวกเขา” วินตะเบ็งเสียงเพื่อถามหญิงที่อยู่ใกล้ ๆ
“แหม ๆ ก็ทำให้เป็นธาตุไงล่ะ คนที่ทำงานผิดพลาดคิดหรอว่าฉันจะปล่อยให้ตายง่าย ๆ”
“นี่แก” ถึงวินจะตะโกนอย่างเดือดดาน แต่อีกใจหนึ่ง วินกับรู้สึกตื่นเต้นอย่างหน้าประหลาด หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นรัวยามมองกลุ่มคนเบื้องหน้า
‘ห้าๆๆ แบบนี้เราจะได้ทดลองพลังใหม่ที่ได้ฝึกฝนมาสักที’
แต่เพียงเซี่ยววิ วินก็ตกใจกับความคิดของตนเอง ‘นี่มันอะไรกัน ทำไมเราถึงคิดแบบนี้ นี่มันไม่ใช่ความคิดของเรา’
ก่อนหน้านี้ ในวันที่วินได้ฝึกกับพวกคารอส คารอสเคยบอกเขาว่าทุกครั้งที่เด็กหนุ่มใช้พลังเวทมนตร์ที่เกี่วยกับความมืด ความคิดและจิตใจของเขาก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป
พลังนี้ก็เหมือนดาบสองคม ยิ่งใช้ทั้งความคิดและตัวตนของเขาก็จะถูกมันทำลายไปด้วย หากเป็นไปได้เขาก็ไม่ยากจะใช้เพิงทมิฬ บ่อย ทว่าหากเขาไม่ใช้มันเขาก็ไม่รู้จะจัดการพวกโจรได้อย่างไร
มันก็เหมือนกับการใช้ พลังปราณและเวทมนตร์พร้อมกันบ่อยนั่นแหละ หากใช้พลังสองสายพร้อมกันร่างกายก็จะต้องรับภาระมาก ตอนแรกเขาก็แปลกใจที่อะคาไม่ใช้พลังเวทปราณนาน แต่พอเขาฝึกไปทำให้เขาพบว่าที่อะคาไม่ใช้ เพราะมันส่งผลเสียต่อร่างกาย คนที่สามารถใช้พลังนี้ได้เหมือนการหายใจนั้นก็คือ……….
ในขณะที่วินกำลังคิดถึงการฝึก เขาก็รู้สึกถึงจำนวนเถาวัลย์ที่เหลือกำลังพุ่งตรงมาทางด้านหลัง วินไม่เสียเวลาหันกลับไปมอง เขาตัดสินใจรวมพลังทั้งหมดเพียงพริบตา เปลงเพิงที่เคยเป็นสีแดงฉานกลับกลายเป็นสีดำทมิฬ จิตสังหารของชายหนุ่มถูกปลดปล่อยถึงขีดสุด เขาตวัดมือไปด้านหลังอย่างรวจเร็ว เพียงแค่ครั้งเดียวที่เด็กหนุ่มตวัดมือเถาวัลย์ก็ถูกเปลงไฟเผาไปจนหมด
“แค่นี้เองหรอคนที่ใช้เวทพฤกษา ถ้ามีความสามารถแค่นี้แกก็คงไม่มีทางสู้กับฉันได้หรอก”
เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดังที่สุด
สิ้นเสียงวินก็ได้ยินเสียงอันแสนคุ้นเคยจากที่ไม่ห่างไปนัก
เสียงของหญิงสาวที่แสดงถึงความเย้ยหยันดังขึ้น “ห้าๆๆๆ ฉันรู้อยู่แล้วว่าพลังเพียงแค่นี้คงไม่สามารถทำอะไรนายได้แน่นอน แต่ว่ามันก็คงเพียงพอสำหรับการท่วงเวลาใช่ไหมล่ะ”
สิ้นเสียงของหญิงสาวตรงหน้า วินก็คิ้วกระตุกด้วยความโกรธ “จริงด้วย นี่แกเอาไอ้พวกนี้มาถ่วงเวลาของฉันอย่างงั้นสินะ”
“ว่าแต่นี่นายจำฉันได้หรือยัง”
“เธอคือ มนุษย์กระต่ายที่อยู่ในดันเจี้ยนสินะ”
สิ้นเสียงของวิน ผู้ใหญ่ในร่างเด็กก็ได้ยินเสียงที่แสดงถึงความผิดหวัง “แหม นี่นายคิดยังงั้นจริงหรอ หน้าเสียดายจริง แต่ว่าก็ชั่งมันเถอะแค่นี้สิ่งที่ฉันต้องการก็เสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะ”
“ใครจะไปยอมกันล่ะ” สิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม วินก็เคลื่อนร่างอย่างรวจเร็วดุดดั่งสายฟ้า เขาใช้มือที่เต็มไปด้วยพิงดำแต่เข้าไปยังร่างของพวกโจรทั่งหมดและเคลื่อนร่างออกจากตรงนี้อย่างรวจเร็ว เพื่อที่จะให้เขาไปถึงเป้าหมายวินจึงรวบรวมพลังทั้งหมดไปไว้ที่ขา พอทันทีที่ร่างของวินไม่มีพลังเวทป้องกันเขาก็รู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงที่ด้านหลัง
เด็กหนุ่มหันขวับมามองอย่างตกตลึง ทำให้เขาพบว่าตอนนี้ด้านหลังของเขาถูกเพิงทมิฬของตนเอนโจรตีใน่ ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาใส่ทอย่างไม่ได้ตั้งตัว ทำให้วินส่งเสียงร้อง
“อ๋าก!”
เขากัดฟันกรอดวินหันกลับไปและใช้พลังทั้งหมดเตะเข้าไปที่โจรที่อยู่ด้านหลัง ความรุนแรงทำให้คนที่รอบโจมตีกระเด็นไปติดต้นไม้
“บัดซบจริงนะพวกแก จะตายอยู่แล้วทำไมไม่ตายไปสักทีวะ”
“ธาตุของฉันจะไม่มีวันตาย จนกว่าร่างกายจะแหลกสลายเพราะฉะนั้นก็เชินคนเล่นสนุกให้เต็มที่นะคะ ลายก่อนเอาไว้เจอกันฉันจะไปเอาวัตถุดิบก่อนน้า”
“เดี๋ยวก่อนสิ”
ระหว่างที่วินกำลังต่อสู้กับพวกกลุ่มโจร
ณ ที่ฐานของพวกโจร เสียงและแสงของการต่อสู้ของพวกวินทำให้พวกโจรเตรียมตัวตั้งรับอันตรายที่อาจจะเข้ามาถึงตัว พวกมันบ้างถือดาบบ้างถือมีด หากมีใครโผล่เข้ามาใกล้พวกมันพวกมันก็จะทำการโจมตีในทันที
อากาศที่เย็นยะเยือกเข้าไปทุกทีทำให้พวกโจรต้องกืนน้ำลาย ถึงแม้บางคนจะอยากหนี้กลับบ้านของพวกมันก็ตาม แต่พวกมันก็รู้ว่าพวกมันไม่สามารถจะหนีได้ เพราะในครั้งนี้ผู้จ้างวานพวกมันไม่ใช่คนธรรมดา
“พวกเราเตรียมตัวตั้งรับให้พรอม ต่อให้ต้องตายพวกเราก็ต้องส่งพวกเด็กไปยังฐานของท่านผู้นั้นให้ได้”
หัวหน้าโจรพูดขึ้น
“เป้าหมายของพวกเราในครั้งนี้ก็คือเด็กหนุ่มผมทองและพักพวกใช่ไหมลูกพี่”
“ใช่แล้วละ แค่มันโผล่มาเราก็โจมตีได้ทันที”
สิ้นเสียงของโจร พวกมันก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ค่อย ๆ ก้าวเท้าตรงมาหาพวกมันอย่างใจเย็น จิตสังหารของบุคคลที่มาไม่ทำให้พวกมันต้องตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ก่อนที่พวกมันจะได้ส่งเสียงจู่ๆ ร่างของหัวหน้าโจรก็ถูกบางสิ่งปักเข้าที่คั่วหัวใจ เลือดสีแดงไหลเป็นสายก่อนที่ลูกน้องของมันจะได้กล่าว พวกมันก็ค่อย ล้มลงและขาดใจตายตามลูกพี่ของมันไป
ชายหนุ่มผมสีดำ กวาดตาสีแดงฉานมองรอบ ๆ เขาบิดขี้เกียจและยืนรอคนที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างใจเย็น
‘รีบมาสักทีสิข้าจะได้ฆ่าแกสักที’
- เข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น