คุณอยู่ที่

บทที่ 17 เริ่มเขื้อนไหว ตอนที่ 3

เขียนโดย nuttapol เมื่อ อาทิตย์, 11/27/2022 - 08:54
Share

หมวดเนื้อหา:

ความเร็วของชายตรงหน้าทำให้วินรู้สึกเย็นวาบ หากชายคนนี้คิดจะฆ่าเขามันคงทำได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือทว่าจากที่เขาสังเกตวินก็พบว่าชายตรงหน้านั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะสังหารเขา
“ทำไมนายถึงอ่อนแอขนาดนี้”
“อ่อนแองั้นหรอ มันก็ไม่แปลกไม่ใช่หรอก็ฉันเพิ่งฝึกใช้พลังเวทแค่ไม่กี่ปีเอง”
ชายตรงหน้าเลิกคิ้วก่อนที่จะถามขึ้นอีกครั้ง “นี่แล้วอาวุธที่ใช้โจมตีระยะไกลล่ะ ที่ใช้”
วินมองชายตรงหน้าอีกครั้ง เขาอยากจะถามชายคนนี้จริง ๆ ว่าเขาเป็นใครทำไมถึงได้รู้เรื่องต่าง ๆ มากมายถึงเพียงนี้ ทว่าวินก็หยุดความคิด
ในระหว่างที่วินกำลังคิดอยู่นั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงจะตสังหารของชายตรงหน้า “ฉันคิดออกแล้ว วิธีง่ายๆ ที่จะสามารถทดสอบพลังของนายนั่นก็คือลองสู้กับนาย แต่ว่าถ้าฉันใช้พลังทั้งหมดนายคงไม่มีทางรอด เพราะฉะนั้นฉันจะใช้พลังแค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
สิ้นคำชายหนุ่มก็เคลื่อนร่างเข้ามาหาวินอย่างรวจเร็ว เขาชกเข้ามาที่ใบหน้าของวินอย่างช้า ๆๆ ท่าทางสบาย ๆ ของชายหนุ่มทำให้วินอดหงุดหงิดไม่ได้ ‘นี่แกคิดจะดูถูกฉันหรอ’
วินยกมือขึ้นมากันก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าหมัดตรงหน้านั้นมีความหนักหน่วงราวกับว่าเขากำลังโดนคนใช้เหล็กต่อย วินผนึกพลังเวทไว้รอบ ๆ ร่างกายก่อนที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะต่อยเข้ามารัว ๆ
“มีพลังแค่นี้คิดหรอว่าจะสู้กับเจ้าพวกนั้นได้” สิ้นเสียงร่างของวินก็กระเด็นออกไป วินรู้สึกจุกในอกก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา เขาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาที่มุมปาก
“ฉันบอกแล้วไงว่าการใช้พลังเวทนั้นต้องทำให้เหมือนว่าเรากำลังหายใจอยู่ ตอนหายใจแกคิอหรือเปล่าว่าต้องหายใจยังไง””
เขาเตะร่างที่ไร้ซึ่งการป้องกันของเด็กหนุ่มอีกครั้ง “แล้วเวลาแกหายใจแกคิดหรือไง”
วินมองท่าทางสบายของชายหนุ่มเบื้องหน้า ทำให้เขาอดคิดถึงตอนที่เขาถูกพวกคาลอสฝึกให้ไม่ได้ วินผนึกพลังเข้าไปไว้ที่มือซ้ายก่อนที่จะวาดมือขึ้น ‘เพลงดาบไร้ดาบกระบวนท่าทางหนึ่ง สังหารยักษ์” เขาตวัดมือลงเบื้องหน้าพร้อมกับคื่นดาบที่พุ่งใสชายหนุ่ม วินไม่หยุดให้ชายหนุ่มคิด เขาเคลื่อนร่างไปด้านหลังก่อนที่จะใช้มือต่างดาบฟันใส่ลำคอของชายหนุ่ม
วินเห็นรอยยิ้มพึงพอใจของเขาก่อนที่ชายตรงหน้าจะใช้ท่าทางเช่นเดียวกับวิน “เพลงดาบกระบวนท่าที่หนึ่ง สังหารยักษ์” คื่นดาบปะทะกันทว่าชายหนุ่มก็หันมาแล้วเลียกดาบสีดำสนิดขึ้นมา “เพลงดาบไร้ดาบงั้นหรอ ของแบบนั้นมันจะดีกว่าการใช้ดาบสู้ได้ยังไง” เขานำดาบปะทะกับวิน
วินมองท่าทางของชายตรงหน้า “นี่แกเป็นใครกันแน่ทำไมถึงรู้จักการโจมตีนี้ได้”
สิ้นคำกล่าวบุรุษหนุ่มในตาแดงดุจโลหิตก็ยิ้มขึ้นมา “ฉันจะเป็นใครก็ช่างเฮอะ แต่ว่าถ้าแกไม่มีวิธีจัดการฉันแกอาจจะตายก็ได้”
วินหลบการโจมตีอีกครั้ง ก่อนที่จะใช้มือแทงเข้าไปแต่ชายหนุ่มก็หลบได้ก่อนที่จะใช้สันมือฝ้าดเข้าไปที่ต้นคอของวิน ความรุนแรงของท่าทำให้วินเกือบหมดสติ เขากัดฟันก่อนที่จะสวนกลับไปด้วยท่าเดียวกัน แต่ว่าเขาก็โดนชายคนนั้นถีดบเข้ายอดอกอีกครั้ง วินเซถลาก่อนที่จะกอักโลหิตออกมาอีกครั้ง
ความต่างของระดับฝีมือนั้นทำให้วินมองชายตรงหน้าอย่างตกตลึกง เขาตัดสินใจเรียกใช้เวทอีกครั้ง แสงสีแดงส่องประกายก่อนที่จะปรากฏปืนสีดำขึ้นมา เขาจับปืนและเลงยิงไปยังร่างที่ไร้การป้องกัน ชายหนุ่มในตาสีแดงเอี้ยวตัวหลบลูกกระสุนอย่างง่ายดาย เขาเคลื่อนตัวไปจับปากกระบอกปืนของเด็กหนุ่มก่อนที่จะใช้มือทำลายมัน
“ฉันประเมินนายสูงเกินไป หรือไม่ก็ประเมินพวกอะคาสูงเกินไป” เขากล่าวก่อนที่จะฟาดมือเข้ากับต้นคอของเด็กหนุ่ม วินรู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกครั้งก่อนที่สติของเขาจะดับลงไป
ชายหนุ่มมองร่างของคนเเบื้องหน้าที่หมดสภาพการต่อสู้ เขายิ้มออกมาแล้วมองท้องฟ้าที่เริ่มใกล้สาง แสงตะวันเริ่มโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง
‘เห็นทีเราคงต้องเป็นคนไปจัดการเอง ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้มีหวังเหตุการณ์คงซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน’
เขามองร่างของวินก่อนที่จะยิ้มขึ้นอย่างถูกใจ ‘เฮอะ เอาไว้เราไปแล้วเจ้านี้ก็คงรีบลุกขึ้นเลยสินะ ช่างเป็นวิธีเอาตัวรอดแบบพวกสัตว์ป่าจริง ๆ วิธีแก้งตาย’
เพียงพริพตาที่มือของเขาจะสัมผัสต้นคอของเด็กหนุ่ม วินก็ใช้พลังเวททั้งหมดป้องกันไว้ทำให้เขาไม่ได้รับความเสียหายเท่าไร
“จงปกป้องให้ได้นะเพื่อน ๆ ของ นาย” สิ้นคำกล่าวเขาก็ใช้พลังทั้งหมดเคลื่อนร่างจากไป

หญิงสาวในตาสีอำพันมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตกตลึงกับความสามารถของชายหนุ่มทั้งสอง พลางคำนึงถึงความอันตรายถ้าหากปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ สำหรับชายหนุ่มผมดำเธอรู้ดีว่าหากต้องการกำจัดชายผู้นี้พวกเธอคงต้องเรียกรวมพลเผ่าเทพทั้งหมดเพื่อมากำจัดชายคนนี้ แต่สำรับเด็กหนุ่มผมทองในตอนนี้หากให้เธอไปจัดการคงไม่ยากเกินความสามารถ ทว่าหากปล่อยไว้มันคงจะสายเกินไป
เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวต่างมิติถึงได้ย้อนเวลาแล้วไปสังหารชายคนนี้ก่อนที่จะมีพลังเวท หากรู้อย่างนี้ตอนนั้นเธอคงตัดสินใจสนับสนุนใพวกนั้นให้สังหารชายคนนี้ให้สินชีพไปแล้ว แต่ว่าทำไมชายคนนี้ถึงสามารถเข้ามาในยังโลกนี้โดยที่เธอไม่รู้ตัว เรื่องนี้นี่แหละที่เธอยังสงใส
หญิงสาวถอนสายตาออกจากวินแล้วหันไปจับจ้องร่างกายของชายหนุ่มอีกคน พลังอันมหาสารของชายตรงหน้าที่สามารถฝ่าเขตแดนผนึกเทวามาได้นั้นทำให้เธออดตลึงกับความสามารถของเขา ต่อให้เธอรีบกับไปยังดินแดนเทพแล้วนำเรื่องนี้ไปรายงาน แต่ว่าพวกเธอก็ไม่สามารถยกกำลังมาสังหารชายคนนี้ได้อยู่ดี แต่ว่าสำหรับชายหนุ่มอีกคนนั้นมันอีกเรื่อง
สิ้นความคิดหญิงสาวก็ยิ้มขึ้น ‘ก่อนอื่นเราคงต้องพาคุณหนูกลับไปยังดินแดนเทพก่อนแล้วค่อยจัดการกับพวกผู้ทำลาย’
ก่อนที่หญิงสาวจะได้ขยับร่างกาย เธอก็รู้สึกถึงจิตสังหารที่อยู่ด้านหลัง หญิงสาวรีบหันขวับกลับไปมอง เส้นผมสีขาวดวงตาสีดำที่กำลังจับจ้องมองร่างกายของเธออย่างไม่วางตานั้นทำให้เธออดสั่นสะท้านไม่ได้ เด็กหญิงอายุประมาณสิบสีสิบห้ามองเธอราวกับว่าจะเจาะดูหายในใจและความคิดของเธอได้ เธอค่อยแย้มยิ้มขึ้นแล้วกล่าว
“เรื่องที่เธอคิดฉันคงปล่อยให้ทำง่าย ๆ ไม่ได้หรอกนะ”
สิ้นคำกล่าว พลังเวทของเด็กสาวก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกาย เด็กสาวค่อย ๆ นำมือเอื้อมมาจับษีรศะของหญิงสาวในตาสีอำพัน ‘เวทลบร้างความทรงจำ’
แสงสีขาวสาดส่องพร้อมกับวงเวทขนาดเล็กที่ปรากฏขึ้นบนมือขงอเด็กสาว ‘จงลืมทุก
อย่างซะ’
หญิงสาวในตาสีอำพันมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตลึง เธอพยายามเคลื่อนร่างแต่ก็ไม่สามารถขยับได้ ก่อนที่เธอจะเห็นรอยยิ้มของเด็กสาวตรงหน้า ‘ทำไมกัน ทำไมเราขยับตัวไม่ได้’ ก่อนที่มือของเด็กสาวจะมาจับพลังเวทของเด็กสาวค่อย ๆ ไหลเข้ามาในร่างกายแล้วสติของเธอก็เริ่มดับลงอย่างช้า เด็กสาวผมขาวมองภาพตรงหน้าเมื่อพบว่าหญิงสาวได้ตกอยู่ในมนตร์ตราของเธอแล้ว เด็กสาวก็ยิ้มออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้เวทมนตร์ชนิดนี่ ต่อให้เธอจะมีความทรงจำมากขนาดไหน ต่อให้เธอจะมีพลังเวทมหาสารสักแค่ไหน แต่ว่าการที่ต้องใช้เวทมนตร์ที่เกี่ยวกับจิตใจและสมองมันก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยากเย็น
การที่จะควบคุมสมองและความทรงจำของผู้อื่นได้นั้นจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเซลล์เส้นประสาทและอื่นที่เกี่ยวกับร่างกาย เด็กผมขาวละสายตาออกจากหญิงที่สลบ ไสล ไม่ได้สติตรงหน้า ก่อนที่เธอจะเรียกเวทมิติออกมาแล้วเดินเข้าไปในนั้น
อาโออิและลินรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อแสงอาทิตย์ส่องโดนหน้าของพวกเธอ โดยที่มีจีน่ากำลังงีบหลับอยู่ ข้างๆ พร้อมกับพวกคุโระและชิโระที่กำลังปือตามองเหมือนว่าจะหลับแหล่มิหลับแหล่
ลินขยับตัวพลางมองสำรวจร่างกายที่โดนโจมตี เด็กสาวพบว่าตอนนี้บาดแผลทั้งหมดนั้นได้หายไปเรียบร้อยแล้ว เหมือนกับอาโออิ
“เป็นไงตื่นแล้วยังงั้นหรือ” ผู้อาวุโสกล่าวขึ้น ทำให้พวกเธอมองรอบๆ แล้วพบว่าตอนนี้พวกเธเอได้มานอนอยู่ หน้าบ้านของผู้อาวุโส
“ทำไมพวกหนูถึงมาอยู่ที่นี่ได้คะ” ลินถามพลางอุ้มชิโระกับคุโระให้มานอนข้าง ๆ จีน่า
“ข้าก็ไม่รู้เรื่องทั้งหมดหรอก แต่สิ่งที่ข้ารู้ก็คือ” ผู้อาวุโสนำมือไปชี้ที่จีน่าแล้วกล่าวขึ้น
“เด็กผมทองพาเจ้ามา แล้วเรื่องที่พวกเจ้าไม่ได้ไปนอนในบ้านก็เพราะว่าเด็กคนนั้นต้องการรอเพื่อนของเจ้าอีกคนนะ”
สิ้นคำกล่าว ทั้งลินและอาโออิก็คิดพร้อมกัน ‘ยังไม่กลับมางั้นหรอ หวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะวิน’
อาโออิลุกขึ้นก่อนที่จะเดินไปสำรวจความเรียบร้อยของโจรที่ถูกเวทของเธอพันธนาการไว้ ระหว่างเดินทางเธอก็พบกับพวกชาวบ้านที่ให้การต้อนรับพวกเธอเป็นอย่างดี เมื่อเธอตรวจสอบเสร็จเด็กสาวจึงตัดสินใจที่จะเดินกลับไปยังบ้านของชายชรา ทว่าเธอก็พบว่าตอนนี้ได้มีคนกำลังเดินตรงเข้ามาในหมู่บ้าน อาโออิเพ่งมองก่อนที่จะรีบวิ่งเข่้าไปทักทาย
“กลับมาแล้วหรอวิน”