คุณอยู่ที่

บทที่ 19 พักผ่อน ตอนที่ 1

เขียนโดย nuttapol เมื่อ อาทิตย์, 11/27/2022 - 08:59
Share

หมวดเนื้อหา:

หลังจากที่วินกลับมาจากการต่อสู้ด้วยร่างกายอันสะบักสะบอม เด็กหนุ่มก็จำต้องฝืนสังขารอันอ่อนล้าเพื่อไปอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับหัวหน้าหมู่บ้านและพวกลินได้ฟัง หลังจากนั้นเด็กหนุ่มจึงได้ไปนอนพักรวมกับพวกลิน ในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน
เวลาผ่านไปนานเท่าใดมิอาจทราบได้ เด็กหนุ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นพร้อมกับหนังตาที่หนักอึ้ง ความจริงแล้วเขายังไม่อยากขยับร่างกายตอนนี้ด้วยซ้ำ ด้วยเสียงกระจองอแงของเด็กน้อยทำให้เด็กหนุ่มต้องฝืนลืมตาตื่นจากห้วงนิทราที่แสนมีความสุข วินบิดขี้เกียจก่อนที่จะค่อยๆยันตัวขึ้นจากพื้นไม้ที่แสนแข็งกระด้าง
“กี่โมงแล้วนะ” เขามองออกนอกหน้าต่างแสงอาทิตย์ในยามเย็นทำให้เด็กหนุ่มพอประมาณเวลาได้ว่าน่าจะอยู่ในช่วง 5 โมงถึง 6 โมงเย็น
กลิ่นอาหารที่ลอยมาตามลมทำให้เขารู้สึกน้ำลายสอ เด็กหนุ่มกวาดตา มองหาเพื่อนของตนแต่ก็พบว่าตอนนี้นอกจากเด็กน้อยผมขาวที่กำลังร้องกระจองอแงอยู่ข้างเด็กหญิงผมสีฟ้า ที่กำลังพยายามปลอบเธอด้วยความสามารถทั้งหมดที่ตนเองมี นอกจากนั้นเขากลับไม่พบใครเลย
วินรีบสาวเท้าเดินตรงไปหาเด็กสาวหน้าตาสะสวย “เป็นไงบ้างนอนหลับสบายดีไหม” ลินทักขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่ม
วินพยักหน้ารับ ก่อนที่จะนำมือไปรูปหัวของเด็กหญิงผมขาว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาดวงตาที่แดงก่ำหากใครมองก็ต้องรู้ว่าเด็กสาวคงร้องไห้ ได้สักพักแล้ว วิน ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้เห็นท่าทางแบบนี้ของเด็กสาวที่ดูสุขุมนุ่มลึก เกินวัยที่ตนเองเป็น
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กหนุ่มตระหนักได้ทันทีว่าอย่างไรเด็กตรงหน้าก็คงยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าจะพยายามสร้างบุคลิกให้ดูเหมือนผู้ใหญ่สักปานใดก็ตาม เด็กน้อยพยายามหยุดร้อง แล้วหันหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตามามองยังวิน
วินนั่งคุกเเข่าเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ก่อนที่จะใช้เสียงอ่อนโยนถามเด็กน้อยตรงหน้า “เป็นอะไรหรอชิโระ พี่ลินแก้งอะไรหนูหรือเปล่า”
สิ้นเสียงเด็กสาวผมสีฟ้าก็หันขวับมามองเด็กหนุ่ม “ใช่ที่ไหนกันล่ะ ชิโระขอร้องให้ปล่อยพวกโจรน่ะ แต่ว่าพวกจีน่าไม่อนุญาต ชิโระเลยร้องไห้ไม่หยุด ฉันพยายามปลอบนะแต่ว่าก็ไม่ได้ผล”
วินขมวดคิ้วเขารู้ดีว่าเด็กน้อยตรงหน้านั้นอ่อนโยนไม่ต่างกับเด็กสาวผมสีฟ้าที่พยายามยืนทำท่าทางเคร่งขรึม แต่ว่าเรื่องแบบนี้ มันควรที่จะคิดให้ดีก่อนที่จะทำไม่อย่างนั้นปัญหามันจะต้องตามมาเยอะแยะไปหมด เด็กหนุ่มรู้สึกขอบคุณพวกจีน่าอยู่ลึกๆ หากไม่มีพวกเธอคอยห้าม 1 สาวน้อย 1 เด็กสาว ที่มองทุกสิ่งทุกอย่างสวยงามไปหมดเกรงว่าตอนนี้สถานการณ์คงย่ำแย่ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะตื่นมาแล้วพบกับยมบาลที่รอรับเขาอยู่ก็เป็นได้
วินถอนหายใจ ก่อนที่จะค่อยๆพูดกับ ชิโระ “นี่ชิโระ รู้หรือเปล่าค่ะ ว่าทำไมพวกพี่จีน่ากับอาโออิ ถึงไม่ยอมปล่อยพวกโจรที่ถูกขังอยู่ข้างนอกนั่น”
เด็กหนุ่มเว้นระยะเมื่อเขาพบว่าเด็กสาวตรงหน้าส่ายหัวปฏิเสธ วินจึงพูดต่ออย่างใจเย็น “นั่นก็เพราะว่า ถ้าเราปล่อยพวกเขาออกมาอีกพวกเขาอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเราก็ได้ยังไงล่ะคะ ดังนั้นแล้ว พวกเราจึงต้องขังเขาไว้ก่อนแต่ว่าไม่ใช่ว่าพวกเราจะขังเขาไว้ตลอดไปหรอกนะ ถ้าพวกเราหาวิธีที่จะทำให้พวกเขาไม่สามารถสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกชาวบ้านได้อีก พวกเราก็จะปล่อยเขาออกมา”
อย่างนั้นหรอคะหนูเข้าใจแล้วหรอค่ะ แต่ว่าจะต้องใช้เวลานานอีกเท่าไรคะ เพราะว่าเราอยู่ในหมู่บ้านนี้นานไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ”
คำถามของเด็กน้อยตรงหน้าทำให้วินเริ่มไต่ตรอง เดิมทีเขาก็อยากหาคนกลางเช่นตำรวจทหารหรือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของโลกนี้ มาช่วยแก้ไขปัญหา หากให้เขาตัดสินเองมันก็คงเป็นเพียงแค่ศาลเตี้ยเท่านั้น ถ้ามันต้องเป็นอย่างนั้นสำหรับเขามันก็คงไม่ได้ต่างกับการที่เขาต้องเป็นโจรเสียเอง ‘หรือว่าเราต้องไปถามพวกหัวหน้าหมู่บ้านกันนะ มันคงจะดีกว่าละมั้งแต่ว่าพวกชาวบ้านจะยอมปล่อยเจ้าพวกนี้ไปหรือเปล่า’
เด็กหนุ่มนำมือลูบท้องก่อนที่จะเบี่ยงประเด็น “พี่เริ่มหิวข้าวแล้วหลักไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วด้วย เอาไว้พวกเรากินอาหารเย็นเสร็จแล้วค่อยมาคิดได้เปล่า“
คำกล่าวของเด็กหนุ่มทำให้เด็กสาวค่อยๆ หยุดร้องไห้ วินเห็นดังนั้น เด็กหนุ่มจึงมองหาผ้าเช็ดหน้าก่อนที่ลินจะยื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวตรงกลางปักรูปดอกไม้และผีเสื้อ เมื่อชิโระเห็นดังนั้นเด็กน้อยจึงยิ้มอย่างถูกใจ วินค่อยๆนำผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาแล้วให้กับเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน
เพียงไม่นานใบหน้าของเด็กตรงหน้าก็ปราศจากน้ำตา ทว่ากลับมีรอยแดงที่แสดงให้เห็นเด็กน้อยร้องไห้มากเพียงใดหลังจากที่เด็กหนุ่มได้ถามหญิงสาวผมสีฟ้า เขาจึงพบว่าชิโระ ร้องไห้มา 3 ชั่วโมงแล้วแต่ว่าวินกลับไม่รู้สึกตัว ตื่นเขาสลบไสลไม่ได้สติแม้ว่าพวกลิงจะพยายามขยายตัวมากสักแค่ไหนเด็กหนุ่มก็ไม่ตื่น
หลังจากคำบอกกล่าวของเด็กสาว ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เขาไม่คิดเลยว่าการนี้จะกลับมาเกิดกับตนเองอีกครั้ง มันเป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าเด็กหนุ่มได้ใช้ร่างกายมากจนเกินไป อาการแบบนี้ไม่ได้เกิดกับเขาเป็นครั้งแรกเพราะว่าเมื่อก่อนเด็กหนุ่มก็เคยเป็น
วินหวนรำลึกวันที่เขาไปทำภารกิจ 3 วัน 3 คืน หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น วินสลบไสลไม่ได้สติเป็นเวลา 1 วัน นับว่าครั้งนี้ยังโชคดีที่ระยะเวลาไม่นานจนเกินไปนักเพราะว่าหากนานกว่านี้ล่ะก็ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นเช่นไร
เด็กหนุ่มตั้งสมาธิเพื่อที่จะสำรวจพลังเวทย์ที่ยังตกค้างอยู่ในร่าง พลังเวทย์ที่ลดลงทำให้วินเสียวสันหลังอีกครั้งไม่ได้เขารู้ดีว่าพลังเวทย์ที่แสนเล็กน้อยแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรได้แม้เพียงนิด ถอนหายใจกับชะตากรรมของตนเอง ก่อนที่จะตระหนักได้ว่าต่อให้คิดวิธีแก้ไขจนหัวแทบระเบิดสักแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
“คิดอะไรอยู่งั้นหรอหน้าตาเครียดเชียว” เสียงของลินดังขึ้นทำให้วินหลุดออกจากความคิดคำนึง
“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่” เสียงสดใสกับท่าทางตั้งคำถามของเด็กน้อยผมขาวทำให้เด็กหนุ่มมองทั้งสองสาวที่ยืนทำท่าทางเป็นห่วงอยู่ไม่ห่าง
“ไม่มีอะไรหรอกจ้าพี่แค่คิดออะไรนิดหน่อยนิดหน่อย ว่าแต่พวกพี่จีน่าไปไหนกันเหรอ” ชายหนุ่มในร่างเด็กจับมือ 1 เด็กหญิง 1 เด็กสาวก่อนที่จะจูงเพื่อไปหาอาหารรับประทาน
“พี่จีน่ากับพี่อาโออิ ไปเฝ้าพวกโจรที่ถูกขังอยู่ค่ะ ส่วนคุโระน่าจะวิ่งเล่นอยู่แถวๆนี้” เสียงใสแจ๋วของเด็กน้อยตอบคำถามก่อนที่เด็กหนุ่มจะถามอะไรต่อ กลิ่นหอมของอาหารก็ได้เบี่ยงเบนความสนใจของวินไปจนหมด
‘เดี๋ยวค่อยคิดก็แล้วกันหาอะไรใส่ท้องก่อนดีกว่า’
เด็กหนุ่มเปิดประตูไม้ที่เก่าคร่ำคร่า ราวกับว่ามันจะหลุดออกได้ทุกเมื่อสภาพดังกล่าวทำให้เขาอยากจะซ่อมแซมหมู่บ้านแห่งนี้ เขากวาดตามองสภาพรอบๆก็พบว่าบ้านหลายหลังในบริเวณนั้นมิได้ต่างกันมากนัก สายลมยามเย็นพัดพากลิ่นหอมของป่าเขาลำเนาไพร เสียงสัตว์ป่าส่งเสียงร้องไม่ห่างไปนัก ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกได้ทันทีว่าตอนนี้เขาได้มาอยู่ในป่าอย่างแท้จริง
ผู้คนต่างเดินกันขวักไขว่บ้างก็หยิบจับอาหารบ้างก็กำลังประกอบอาหาร สีหน้าของผู้คนเต็มไปด้วยความสุขราวกับว่าการฉลองครั้งนี้เป็นการฉลองที่ใหญ่ที่สุด คิดไปคิดมาเด็กหนุ่มก็รู้สึกแปลกใจไม่ได้ เสียงผู้คนขนาดนี้ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่นิดเดียวมันคงเป็นอาการเหนื่อยสะสมเป็นแน่
“เชินทางนี้เลยค่ะ พวกคุณหนูทั้งสามรออยู่แล้วค่ะ” เสียงของหญิงสาวชาวบ้านหน้าตาธรรมดากล่าวพลางผายมือเชินไปยังโต๊ะขนาดไม่ใหญ่มากนัก
วินจับมือลินกับชิโระก่อนที่จะสาวเท้าตรงไปหากลุ่มพวกจีน่าที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ไม่ห่าง โต๊ะไม้กลมๆที่พอกับการนั่งของพวกเขาทั้ง 6 คน วิน มองสภาพของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ที่พื้นบ้างก็นั่งกินอาหารอยู่ที่บ้านของตน โดยที่ให้พวกเขากินอาหารอยู่ตรงต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมสร้างความร่มเย็นให้แก่หมู่บ้าน
โต๊ะด้านข้างไม่ห่างไกลนักเป็นกลุ่มชาวบ้านและหัวหน้าหมู่บ้านการฉลองครั้งนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนักเนื่องด้วยชาวบ้านที่มีจำนวนน้อยและทรัพยากรต่างๆที่ไม่เพียงพอในการหาของกิน เขาก็พบว่าอาหารส่วนใหญ่เต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิดที่หาได้รอบๆหมู่บ้าน มีไก่และหมูบ้างเพียงเล็กน้อย หากมองไปจะพบว่า มีแต่โต๊ะของพวกเขาที่มีเนื้อสัตว์ นอกนั้นมีแต่ผักและผลไม้
“เชิญรับประทานได้เลยค่ะ” เสียงหญิงสาวชาวบ้านกร่างขึ้นทางถ่ายมือให้กลุ่มพวกหวินเริ่มรับประทานอาหาร
ตอนแรกเด็กหนุ่มคิดจะปฏิเสธ ทว่าเมื่อเขามองไปยังสีหน้าของพวกชาวบ้านและจีน่าวินกลับพบว่าพวกเธอทำถ้าลำบากใจ แต่ไม่ได้กล่าวอะไร ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารที่พวกชาวบ้านหามาให้ด้วยความตั้งใจ
‘ถ้าเราปฏิเสธมันคงดูไม่ดีแน่ๆ เอาไว้เราค่อยหาวิธีแก้ไขทีหลังก็แล้วกัน’
ลินมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะก่อนที่จะกล่าวอย่างเป็นห่วง “อาหารเยอะขนาดนี้แล้วพวกชาวบ้านล่ะพวกเขาจะมีของกินหรือเปล่าล่ะถ้าดูหนังมา ถ้าจำไม่ผิดที่นี่ก็ปลูกผักผลไม้ไม่ค่อยได้อยู่แล้ว”
สิ้นคำพูดวิน ก็หันขวับมามองพลางส่งสัญญาณให้อาโออิกลางอนาเขตป้องกันไม่ให้เสียงที่พวกเขาคุยกันหลุดออกไปข้างนอก เด็กหนุ่มรู้สึกว่าการที่คนอื่นมีพลังน้อยกว่าตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีเป็นครั้งแรก หาผู้สาวบ้านมีพลังเหนือกว่าพวกเขาก็คงไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
อาณาเขตใสกระจ่างโล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วหากไม่มีใครสังเกตก็คงไม่พบว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในอาณาเขตเป็นแน่ มันสิหากพูดให้ถูก ต่อให้พวกชาวบ้านอยากจะสังเกตมากแค่ไหน ก็คงไม่สามารถสังเกตได้เนื่องด้วยพลังที่แตกต่าง กันจนเกินไป
“เรียบร้อยแล้วล่ะ” อาโออิเอ่ยก่อนที่จะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าทำไมต้องให้เธอทำเรื่องแบบนี้
วินคิดก่อนที่จะพูดเป็นเชิงปรึกษาทุกๆคน “ถ้า พวกเราต้องอยู่ในหมู่บ้านนี้อีกประมาณ 1 อาทิตย์จะเป็นอะไรหรือเปล่าพอดีฉันอยากจะหาวิธีฟื้นฟูที่นี่ แล้วอีกอย่างหนึ่งฉันคงทำไม่ได้ ถ้าเธอกับลินไม่ช่วยฉันเพราะว่ามันเป็นเวทย์ที่พวกเธอน่าจะถนัด”
ทั้งสองสาวพยักหน้าก่อนที่จะพูดขึ้น “เราก็กำลังคิดแบบนั้นเหมือนกันและอีกอย่างนึง กลุ่มโจรที่พวกเราจับได้นี่แหละที่เป็นปัญหา” อาโออิกล่าว อนที่จะมองไปยังจีน่าประมาณว่า ถามจีน่าเลยฉันจำได้แค่นี่แหละ
“นี่เธอไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันบอกเลยหรือไง” เด็กหญิงผมสีทองส่งสายตายังไม่พอใจมาทางเด็กสาวผมสีน้ำตาล
“คุโระชิโระหิวข้าวแล้วใช่ไหมมานั่งข้างพี่เร็ว เข้า” อาโออิรีบเบี่ยงประเด็นก่อนที่จะไม่สนใจบทสนทนาต่อมาอีกเด็กสาวรีบตักข้าวให้กับน้องทั้งสองคน
ท่าทางของอาโออิ ทำให้วิน อดยิ้มที่มุมปากไม่ได้ สำหรับเขาการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้มันคงเกินวัยของพวกเขาจริง ๆ ทั้งที่เด็กหนุ่มเคยตัดสินใจไปแล้วแท้ๆว่าจะใช้ชีวิตให้มีความสุขในโลกใบนี้ ทว่าเมื่อวินเห็นคนที่ลำบากอยู่ตรงหน้า เด็กหนุ่มกลับรู้สึกอยากใช้ความสามารถและพลังทั้งหมดช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเหมือนครั้งก่อน
“ช่วงนี้นายเหม่อบ่อยจังเลยนะมีอะไรหรือเปล่า ถ้านายมีอะไรก็ปรึกษาพวกฉันได้นะ” ปีหน้ากากก่อนที่จะตับหมูชิ้นใหญ่มาให้วิน
“ก็นิดหน่อยช่วงนี้มันมีเรื่องให้คิดหลายเรื่องแต่ว่าไม่ต้องห่วงหรอกเพราะหลังจากนี้ฉันจะปรึกษาเธอให้เต็มที่เลยหล่ะ”
“ก็ดีขอให้เป็นอย่างนั้นก็แล้วกัน แต่ว่านะนายยังจำได้ไหมเรื่องที่นาย พูดกับฉันว่าเรื่องของผู้หญิงที่มาจากต่างโลกแล้วน่ะน่าจะเล่าเรื่องให้ฉันฟังทั้งหมด” จีน่าถามเป็นเชิงคาดคั้น
วินยิ้มก่อนจะตักข้าวใส่ปากคำใหญ่ เขาคิดระหว่างที่กำลังเคี้ยวข้าวตรงหน้าไปเรื่อยๆโดยที่มีสายตาของเพื่อนๆจ้องมองไม่ห่างว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะแถต่อไปแล้ว เพราะว่าสิ่งที่วินตอบ ทำให้ทุกคนยิ้มออกมายังพึงพอใจ
“แน่นอนอยู่แล้วไม่ต้องห่วงหลังจากนี้ฉันจะไม่คิดว่าพวกเธอทุกคนเป็นตัวถ่วง พวกเรา เป็นทีมเดียวกันเป็นเพื่อนกันแล้วถ้ามีอะไรฉันจะปรึกษาพวกเธอแน่นอน”
วินตั้งหน้าตั้งตารับประทานข้าวและอาหารตรงหน้า ระหว่างรับประทานเด็กหนุ่มก็ป้อนข้างสลับกับลินไปด้วย จูบแผ่นดินก็สั่นไหวอย่างรุนแรงทำให้ทุกคนต้องหยุดชะงัก
ท้องฟ้าครึ้มเกิดรอยแยกออกประกอบกับพื้นพสุธาที่สั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่าที่แห่งนี้กำลังจะถล่มลงไป เสียงกรีดร้องเริ่มดังขึ้นก่อนที่วินจะหาวิธียับยั้ง ชาวบ้านบางคนเริ่มวิ่งกลับเข้าไปในบ้านบ้างก็ตกตะลึงจนไม่สามารถขยับร่างกายได้
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีแดงฉานราวกับว่าโดนทาทับด้วยโลหิต ทำให้คนที่จ้องมองรู้สึกหวั่นใจไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ “ อาโออิกวาดสายตามองไปรอบๆก่อนที่จะเตรียมตัวร่ายเวทย์ คำว่า gena กับโบกมือเป็นเชิงห้าม
“ไม่มีประโยชน์หรอกอย่าเพิ่งทำอะไรกันดีกว่ารอดูสถานการณ์ก่อน” เด็กสาวใช้มือจับชิโระที่มีท่าทางหวาดกลัวไว้กับตัว
“น่าสนุกจังเลย” เสียงของเด็กชายดังขึ้นของที่จะหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ร่างกายเด็กน้อยยิ้มอย่างถูกใจโดยที่ไม่ได้สังเกตท่าทางของพวกลินที่มีสีหน้าปั้นยากอยู่ไม่ห่าง
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย” เสียงชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นก่อนที่จะมีใครก้าวขาออกไปจากบริเวณนี้ เด็กหนุ่มผมสีทองก็ตวาดดังลั่น
“อย่าขยับไปไหนอย่างเด็ดขาด อยู่ข้างนอกไว้ยังไงที่นี่ก็ไม่มีอันตรายหรือหากมีพวกผมจะได้ ช่วยเหลือได้ทัน แล้วอีกอย่างนึงถ้าพวกคุณไปไหนพลังเวทย์ของผมและเพื่อนๆคงไม่สามารถคุ้มครองทุกคนได้”
เสียงของเด็กหนุ่มทำให้พวกชาวบ้านที่วิ่งไปในบ้านรีบกระโจนกลับออกมา แล้วค่อยๆมาอยู่ใกล้พวกลิน
“ไม่มีคนโจมตีฉันใช้พลังเวทย์สำรวจดูแล้ว น่าจะเกิดจากภัยธรรมชาติ” จีน่ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเครียด เธอพยายามคิดวิธีช่วยเหลือ แต่ว่าเหตุการณ์แบบนี้นั้นไม่ได้เกิดบ่อยนัก ทำให้เด็กสาวคิดไม่ออก
เด็กหนุ่มคิดไปถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น ‘ถ้าจำไม่ผิดเราต้อง ให้ทุกคนอยู่ข้างนอกแล้วก้มหัวลงหรือเปล่า ยุ่งยากจริงๆ ดันคิดไม่ออกก็ได้แล้วอีกอย่างนึงเหตุการณ์แบบนี้เราก็ไม่ค่อยได้เจอด้วย ทำไงดี ทำไงดี รีบๆคิดสิ ‘
เพียงไม่นานแผ่นดินและท้องฟ้าก็เริ่มๆกลับสู่สภาวะปกติ ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก ‘บ้าจริงๆเลยมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่โลกนี้มีแผ่นดินไหวด้วยเหรอ’
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย” ทั้งสงสัยของจีน่าและทุกๆคนทำให้วินรู้ได้ทันทีว่า ที่นี่มันไม่เคยมีแผ่นดินไหวมาก่อนไม่อย่างนั้นพวกที่หน้าคงจะรู้วิธีการแก้ไขปัญหานี้เป็นแน่
จานอาหารที่ร่วงแตกกระจายบนพื้นทำให้แต่ละคนมองอย่างเสียดายไม่ได้ เมื่อเป็นดังนั้นแล้วเด็กหนุ่มกับเด็กสาวจึงตัดสินใจพูดพร้อมกัน
“ถ้าอย่างนั้นคุณลุงรอที่นี่ก็แล้วกันนะคะเดี๋ยวพวกหนูออกไปหาอาหารเย็นให้ค่ะ”
จีน่าและวินมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย ก่อนที่ดีน่าจะเปิดประตูมิติแล้ว รีบสาวเท้าไปพร้อมกับบินโดยที่ไม่ได้รอฟังคำทัดทานของพวกชาวบ้านแม้แต่นิดเดียว
“สองคนนี้นี่รู้ใจกัน จริงๆนะ” เสียงอาโออิกล่าวขึ้นโดยแฝงน้ำเสียงไม่พอใจลงไปในนั้นด้วย
ลินพยักหน้ารับก่อนที่จะหันไปเล่นกับคนและชื่อโต๊ะที่ยืนอย่างไม่ได้รู้สึกรู้สา สำหรับเธอถึงแม้ว่า จีน่าจะรู้ใจวินมากแค่ไหน แต่ว่ามันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอันที่จริงแล้วเด็กสาวก็ยังไม่รู้เลย ก็ความรู้สึกของเธอกับเด็กหนุ่ม นั่นมันเป็นความรู้สึกอย่างไร ดังนั้นแล้วเธอจึงอยากจะขอเวลาสำรวจและศึกษาความรู้สึกตัวเองให้แน่ใจเสียก่อน
ผิดกลับเด็กสาวผมสีน้ำตาลท่าทางเอาแต่ใจ อาโออิ เบะปากอย่างไม่พอใจ ถึงแม้ว่าจีน่าจะเป็นเพื่อนของเธอ แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยยังไงก็ตามสิ่งที่เธออยากได้เธอต้องได้
‘คอยดูนะฉันต้องหาวิธีทำให้วินหันมาสนใจฉันให้ได้’