คุณอยู่ที่

บทที่ 3 การว่าจ้าง

เขียนโดย nuttapol เมื่อ อังคาร, 04/26/2022 - 15:21
Share

หมวดเนื้อหา:

            ปล. นิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลและอาจจะมีฉาก 18+ เป็นบางครั้งนะครับ

 

            ณ บ้านของไบรท์ ระหว่างที่คนทั้งหมดกำลังรับประทานอาหารเย็น วารีก็ได้พูดขึ้น

 

             “นี่ พี่ไอรู้จักเกมที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ไหม”

 

             “หมายถึงเกม A & m สินะ” ไอพูดขึ้น

 

            ไบรท์หันไปมองในขนาดที่เขากำลังจะตักอาหารเข้าปาก

 

            วารีพยักหน้าและพูดต่อในทันที

 

             “พวกเราจะมาว่าจ้างให้พวกเธอช่วยเล่นเกมนี้ให้หน่อย” วารีพูดกับพวกไบรท์

 

             “จะบ้าหรอ พวกเราไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น” ไบรท์พูดขึ้นแต่ไอก็พูดขัดขึ้น

 

             “ไบรท์ เรื่องนี้พวกเราต้องรับทำนะ” พอเธอพูดจบเธอก็ได้นำโน๊ตบุ๊คทของเขามาให้เขาดู ไบรท์มองดูที่หน้าจอ ที่มีวิดีโอกำลังเล่นอยู่

 

             “ในวันที่ 1 ม.ค. ได้พบว่ามีเด็กหญิงคนหนึ่ง อายุแปดขวบ ได้เข้าไปเล่นเกมออนไลน์เกมหนึ่ง   เด็กคนนั้นได้เข้าไปเล่นเกมออนไลน์นานเกินไป ซึ่งทำให้ตอนนี้เด็กหญิงคนดังกล่าวก็ยังไม่ฟื้นจากการหลับไหล หมอและพยาบาลได้ลงความเห็นว่าในตอนนี้เด็กคนนั้นก็ยังคงอยู่ในเกมออนไลน์โดยที่หมอได้ตรวจสอบสมองของเด็กผู้หญิงแต่ก็ไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด   โดยที่ตอนนี้หมอที่มีความเชี่ยวชานกับองค์กรณ์ต่าง ๆ กำลังหาวิธีช่วยเหลือเด็กหญิงคนนั้นอย่างสุดความสามารถ ขอจบรายงานข่าว”

 

             “ข้อมูลแค่นี้พวกเราช่วยไม่ได้หรอกนะ” ไบรท์หันไปมองยังพี่สาวของเขา สิ้นเสียงของไบรท์ก็ได้มีความเงียบเกิดขึ้น

 

            ผ่านไปไม่นานวารีจึงได้ตัดสินใจพูดออกมา “เด็กคนที่ติดอยู่ในเกมน่ะ” วารีพูดพร้อมทั้งเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา “เขาเป็นน้องสาวของพวกเราเอง”  เธอพูดพร้อมทั้งนำมือไปเช็ดน้ำตา

 

             “ฉันขอพูดตรง ๆ เลยก็แล้วกันนะ ข้อมูลแค่นี้พวกเราช่วยไม่ได้จริง ๆ “ ไบรท์มองไปยังคนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า แต่ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้น ไบรท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายและ พอวาตะได้เห็นเธอก็ได้พูดขึ้น

 

             “เปิดลำโพงด้วย” เมื่อเขาได้ยินไบรท์จึงกดเปิดลำโพงทันที

 

             “ไงไบรท์ ไอ มาย สบายดีไหม” เสียงที่พวกเขาไม่ได้ยินมานานดังขึ้น พอไอและมายได้ยินพวกเธอก็ยิ้มขึ้นมาแต่ผิดกับไบรท์เขาจะกดวางสายแต่ไอก็แย่งมือถือไปจากไบรท์เสียก่อน

 

             “สวัสดีค่ะพ่อ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

 

             “ไบรท์รู้เรื่องนั้นหรือยังไอ”

 

             “พวกเราเพิ่งคุยกันไปเองค่ะ แต่ไบรท์เหมือนไม่อยากรับงานนี้”

 

             “ไอ ลูกพามายไปข้างนอกก่อนส่วนพวกคุณหนูวารีกับวาตะจะอยู่ด้วยก็ได้นะครับ” เสียงปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยต่อ “พ่อไม่อยากให้มายได้ยิน”

 

             “อะไร ทำไมต้องปิดบังหนูด้วย” มายถามขึ้นแต่พอไอมองไปยังน้องสาวของเธอ มายก็ลุกออกไปจากโต๊ะทันที

 

             “ไปรออยู่ในห้องก่อน” ไบรท์พูดขึ้น

 

            พอมายออกไป ผู้เป็นพ่อก็เอ่ยขึ้น

 

             “ไบรท์ พ่อไม่เคยบอกเรื่องนี้กับลูกมาก่อน แต่วันนี้พ่อคงจำเป็นต้องบอก” พ่อของไบรท์พูดด้วยความจริงจัง

 

             “ลูกคงคิดว่าแม่ของลูกตายไปแล้วใช่ไหม แต่ที่จริงแล้วเธอยังไม่ตาย”  เขาพูดพร้อมทั้งแสดงภาพหนึ่งให้ไบรท์ได้เห็น พอไบรท์ได้มอง เขาก็เห็นว่าภาพที่เขาเห็นนั้นเป็นภาพที่มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ บนศีรษะของเธอสวมสิ่งที่เป็นหมวกที่มีความพอดีกับหัวของเธอ

 

             “เครื่องวัดคลื่นสมอง หรือว่านี่คือ” ไบรท์พูดขึ้น

 

             “ใช่ ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของลูก”  พ่อของเขาพูดขึ้น “ลูกคงอยากจะถามพ่อสินะว่าทำไมพ่อถึงไม่บอกความจริง แต่พ่ออยากจะบอกว่าถ้าลูกไปเล่นเกม a & m ลูกก็จะรู้เอง”

 

             “มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนี่พ่อ”

 

             “พ่อจะไม่บังคับอะไรลูกทั้งสิ้น แต่ถ้าลูกอยากรู้ลูกก็ทำตามที่พ่อบอก”

 

            พอเขาพูดกับไบรท์เสร็จเขาก็หันมาพูดกับวารีและวาตะต่อในทันที

 

             “ท่านประทานฝากคำพูดมาถึงพวกคุณหนูด้วยนะ” พอวาตะได้ยินเธอก็เตรียมจะลุกออกไปในทันทีแต่พ่อของไบรท์ก็ได้พูดขึ้น

 

             “พรุ่งนี้จะส่งเครื่องเกมไปให้พ่อฝากช่วยน้องด้วยนะ”

 

             “หนูฝากไปบอกพ่อด้วยนะคะ” ไบรท์และวารีรอฟังคำพูดของวาตะ

 

             “หนูไม่เคยคิดว่าเขาเป็นพ่อของหนูตั้งแต่เขาไม่ช่วยน้องของหนู” สิ้นเสียงวาตะก็ได้หยิบโทรศัพท์มาจากมือของไอและกดวางสายในทันที

 

            ไบรท์หยิบโทรศัพท์ของเขาคืนมาพร้อมทั้งหันไปพูดกับวาตะทันที

 

             “ฉันรับงานนี้” สิ้นเสียงของไบรท์ทั้งวาตะและวารีก็ได้ยิ้มออกมา

 

            พอพวกเขาได้คุยกันจนจบไบรท์ก็ได้เดินเข้าไปในห้องของเขาทันที

 

            หลังจากไบรท์เข้าไปในห้อง วารีกับวาตะก็ได้หันมามองไอ

 

             “นี่ทำไมพี่ไอไม่บอกพวกฉันว่าไบรท์นอกจากจะเป็นเกมเมอร์แล้วยังเป็นฮันเตอร์ด้วย”

 

             “ไบรท์น่ะ ไม่อยากให้พี่บอกอะไรกับใครมากจนเกินไปหรอก แต่ที่เด็กคนนั้นรับปากว่าจะทำงานนี้แล้วพี่ก็บอกได้แค่ว่าเด็กคนนั้นจะทำงานให้สำเร็จแน่นอน” ไอพูดด้วยความมั่นใจ

 

             “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ” วาตะถามขึ้น

 

             “ไม่เชื่อเธอก็ไปดูข้อความของเธอสิ ว่าเด็กนั่นพิมพ์มาว่าไง”

 

            วาตะหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาพร้อมทั้งเข้าไปดูในเกมที่เธอเล่นทิ้งไว้และจึงได้เห็นข้อความที่ไบรท์พิมพ์ทิ้งไว้

 

             ‘จะไม่เข้าเกมซักพักนะ zero จะไปเล่นเกม A & m’

 

            พอวาตะเห็นดังนั้นเธอก็ยิ้มออกมา

 

             ‘นี่พวกเราอาจจะคิดถูกก็ได้นะที่มาหานาย’

             

 

            วันต่อมาพอไบรท์กลับมายังห้องของเขา เด็กชายก็ได้พบเครื่องเกมวางไว้พร้อมให้เขาเตรียมตัวไปเล่นได้ทันที เมื่อเห็นดังนั้นไบรท์จึงหยิบปากกาและกระดาศไปเขียนไว้หน้าห้องของเขาทันที

 

             ‘อย่ารบกวน จะเล่นเกม' พอเขาเขียนเสร็จเด็กชายก็ได้ไปล้มตัวลงนอนที่เตียงและหยิบเครื่องเกมมาสวมหัวในทันที